แม่ค้าตลาดสด ทำกิจการขายปลาน้ำจืด ย่านนนทบุรี ส่งข้อความ เข้ามาใน Facebook บสย. ด้วยความปลื้มอกปลื้มใจ พร้อมคำขอบคุณ ที่มีบสย.ให้การค้ำประกันสินเชื่อในโครงการสินเชื่อ ของธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย และได้อนุมัติสินเชื่อวงเงิน 50,000 บาท โดยมีบสย. ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐ เป็นเพื่อนร่วมทาง ร่วมขับเคลื่อน ให้แม่ค้ารายนี้สมหวัง มีทุนต่อยอดกิจการ
ได้ยินได้ฟังเรื่องนี้ ผมไม่พลาดแน่นอน รีบติดต่อแม่ค้ารายนี้ทันที เพื่อขอนำเรื่องราวมาเผยแพร่ต่อ ทำอย่างไรถึงได้เงินกู้ ....? เรามาดูความพยายามของแม่ค้ารายนี้ไปพร้อมๆกันครับ ว่าเค้าทำอย่างไรบ้าง ..!
คุณจุฬาณี แก้วพิมพา มีอาชีพขายปลาน้ำจืด ได้รับสินเชื่อจากธนาคารไทยเครติดเพื่อรายย่อยจำนวน 50,000 บาท โดยแนะนำโครงการสินเชื่อสำหรับรายย่อย ซึ่งมี บสย.ช่วยค้ำประกัน
“ตอนแรกก็ไม่รู้จักและยังไม่เข้าใจว่า บสย. คือใคร มาเห็นจากอินเตอร์เน็ท ก็เลยเข้าไปดู และก็ได้เข้าไปถามที่ธนาคาร ยิ่งได้เงินทุนก้อนใหม่มาเพิ่มก็ยิ่งปลื้มไปกันใหญ่ พวกแม่ค้าในตลาดดีใจมากที่มีโครงการนี้เข้าไปแนะนำให้กับพวกแม่ค้า และยังบอกว่า โครงการนี้จะช่วยลดปัญหาจากการเป็นหนี้นอกระบบซึ่งก็จริงๆเพราะดอกเบี้ยถูกกว่า จากที่ทุกวันนี้ก็ยังเป็นหนี้นอกระบบ ซึ่งจะเข้ามาเก็บเงินทุกวัน “ คุณจุฬาณี พูดด้วยความดีใจ
เงินทุนก้อนใหม่ จะช่วยเติมสภาพคล่องและเป็นทุนในการค้าขายต่อไป และที่ดีใจยิ่งกว่านั้นคือ โครงการนี้ได้เป็นจุดเปลี่ยนในตัวเธอ คือการก้าวสู่โลกโชเชียล เธอค้นหาข้อมูลเรื่องการค้ำประกัน จากโซเชียลมีเดีย และปัจจุบันเป็นแฟนเพจ Facebook บสย. เธอได้ประสบการณ์ใหม่ในโลกโซเชียลและได้เงินทุนก้อนใหม่ จากโครงการสินเชื่อรายย่อยของบสย.ที่ร่วมกับธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย
“บางคนก็ทำไม่ผ่านนะคะ แต่ของเราโชคดี มี บสย.มาช่วยค้ำประกันให้ ดีมากเลยค่ะ” และยังขอบคุณอีก 2 ธนาคารคือ ธนาคารออมสิน ซึ่งสนับสนุนสินเชื่อก้อนแรกให้กับเธอ ตามด้วยธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย ที่มาช่วยผู้ประกอบการรายย่อยและแม่ค้า ที่ตลาดนนทบุรี ถึงตอนนี้ มีแม่ค้าอีกหลายคนที่ทยอยเป็นลูกค้าของธนาคารนี้
คุณจุฬาณี ยังได้ให้คำมั่นว่า จะมุ่งมั่นทำธุรกิจอย่างไม่หยุดยั้ง ขอบคุณ บสย.และจะไม่ยอมให้เป็นหนี้เสียธนาคารโดยเด็ดขาด
ผมดีใจที่สุดครับที่คุณจุฬาณี ไม่คิดจะฆ่าตัวตายแล้วจากหนี้สินที่ประดังประเดเข้ามาในช่วงที่เธอกำลังสะดุด เธอขอบคุณธนาคารที่มีแผนการให้ความช่วยเหลือสนับสนุนเงินกู้ให้ผู้ประกอบการรายย่อย ในอัตราดอกเบี้ยที่ไม่แพงจนเกินไป และยังมีหน่วยงานรัฐช่วยพยุงโดยค้ำประกันให้กับผู้กู้ที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน หรือหลักทรัพย์ไม่เพียงพอ ผมได้ฟังเรื่องราวจากตัวจริงเสียงจริงและอยากขอบคุณธนาคารที่ช่วยเหลือรายย่อยครับ