ช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้ บสย. ยังเดินหน้าช่วยเหลือผู้ประกอบการอย่างแข็งขัน โดยเฉพาะกลุ่มรายย่อย รายจิ๋ว พ่อค้า แม่ค้า หาบเร่ แผงลอย ที่ปัจจุบัน บสย. มีโครงการค้ำประกันสินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการ Micro Entrepreneurs ในวงเงิน13,500 ล้านบาท ซึ่งร่วมกับ 4 ธนาคารหลัก คือ ออมสิน ไทยเครดิตเพื่อรายย่อย ทิสโก้ และธนาคารกรุงเทพ ปล่อยกู้โดยใช้ บสย.ค้ำประกันฯ สูงสุดไม่เกิน 2 แสนบาท
เพื่อให้การช่วยเหลือ SMEs กลุ่มนี้เดินหน้าอย่างเต็มที่ ไม่ติดขัด ตั้งแต่เดือนกันยายน บสย. ได้จัดกิจกรรมหารือ ทำความเข้าใจ ระหว่าง ผู้บริหารที่ดูแลสายงานสายสาขาของธนาคารออมสิน อาทิ ผู้ช่วยผู้อำนวยการธนาคารออมสิน สายงานกิจการสาขา, ผู้อำนวยการภาค, ผู้อำนวยการเขต และผู้จัดการสาขา ในเขตพื้นที่ต่างๆ และผู้บริหาร บสย. เพื่อขจัดปัญหา และอุปสรรคในการใช้บริการ โดยจัดเวียนกันไปแต่ละพื้นที่ตั้งแต่ กรุงเทพฯ ภาคเหนือ อีสาน และปิดท้ายที่ภาคใต้ ซึ่งจะเกิดขึ้นประมาณเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้
กิจกรรมการพูดคุย ปรึกษาหารือในลักษณะนี้ ยังลงพื้นที่ไปยังจังหวัดต่างๆ โดยเป็นการพูดคุยในระดับสาขา บสย. ซึ่งมีอยู่ 11 แห่งทั่วประเทศ กับสาขาในเขตต่างๆ ของออมสินทั่วประเทศเช่นเดียวกัน รวมถึงการจับมือร่วมกันลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์โครงการ โดยสินเชื่อของออมสินจะใช้ชื่อว่า“สินเชื่อประชาชนสุขใจ” วงเงินกู้สูงสุดรายละไม่เกิน 200,000 บาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ 1% ต่อเดือน (Flat Rate) โดยมี บสย. ให้การค้ำประกันเงินกู้ และอีกตัวคือ สินเชื่อประชารัฐ เพื่อประชาชน วงเงินไม่เกินรายละ 50,000 บาท
นอกจากออมสินแล้ว ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย ก็มีการจัดกิจกรรมลงพื้นที่เดินตลาดในทุกภาคทั่วประเทศเช่นเดียวกัน โดยจับมือกับ บสย. ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนพ่อค้า แม่ค้า ตามตลาดนัด ตลาดสด เพื่อสอบถามความต้องการใช้วงเงิน และประชาสัมพันธ์โครงการสินเชื่อ ที่ใช้ บสย. ค้ำประกันฯ ซึ่งปัจจุบัน ธนาคารไทยเครดิตฯ มีสินเชื่อเพื่อรายย่อย 2 ตัว ซึ่ง บสย. ค้ำประกันฯ 100% คือ สินเชื่อนาโนเครดิต เพื่อธุรกิจรายย่อย วงเงินกู้ 10,000 - 100,000 บาท และสินเชื่อไมโครเครดิต เพื่อธุรกิจรายย่อย วงเงินกู้ 100,000 - 200,000 บาท
ความร่วมมือดังกล่าว เชื่อว่าจะทำให้การช่วยเหลือ SMEs รายย่อย เกิดผลและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ถึงวันนี้ บสย. มีการค้ำประกันสินเชื่อให้กับกลุ่มรายย่อยรวมแล้วเกือบ 15,000 ราย และเชื่อว่าตลอดไตรมาสสุดท้ายนี้ จะเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ อีกหนึ่งข่าวดีสำหรับ SMEs รายย่อย ที่เปรียบเสมือนฐานรากสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย